ใกล้สิ้นปีกันแล้ว หลายคนคงเริ่มวางแผนเที่ยวว่าจะไปไหนและทำอะไร รวมทั้งคิดเรื่อง “การทำความสะอาดบ้าน” เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยต้อนรับปีใหม่ โดยเชื่อว่าเป็นการปัดกวาดสิ่งไม่ดี (สิ่งสกปรก) ทั้งหลายในปีเก่าออกจากบ้านไปให้หมด และต้อนรับสิ่งดี ๆ ใหม่ ๆ ในวันขึ้นปีใหม่
สำหรับคราบสกปรกหรือขยะ เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและเก็บกวาดได้ง่าย และสามารถเช็กได้ว่าหลงเหลือสิ่งสกปรกนี้ตกหล่นไว้ตรงไหนได้บ้าง แล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อยจนเพอร์เฟ็กต์ดั่งที่ตั้งใจไว้ แต่สำหรับ “กลิ่นเหม็น” เป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย เพราะในบางครั้งเราจะปัดกวาดบ้านจนสะอาดแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์นี้อยู่ดี ดังนั้น Ayasan เลยจะมาบอกวิธีดับกลิ่นเหม็นในบ้านแบบหายขาดและได้ผลจริง
1. กลิ่นบุหรี่
แม้ว่าคุณจะขอให้คนสูบบุหรี่ไปสูบบุหรี่ข้างนอกแล้วก็ตาม แต่กลิ่นของบุหรี่อาจถูกพัดพาเข้ามาในบ้าน หรือติดมากับตัวของผู้สูบ เพราะเขาหรือเธอเป็นคนสูบบุหรี่จัดก็ตาม ก็ทำให้บ้านของคุณมีกลิ่นเหม็นบุหรี่ได้ โดยกลิ่นอาจจะไปติดกับเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าทั้งหลาย วิธีดับกลิ่นเหม็นจากบุหรี่ง่ายนิดเดียว คือ นำน้ำส้มสายชูมาราดลงบนผ้า จากนั้นก็กวัดแกว่งผ้าดังกล่าวไปทั่วบ้าน ให้กลิ่นของน้ำส้มสายชูไปดับกลิ่นเหม็น นี่เป็นวิธีการดับกลิ่นแบบธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าคนในบ้านจะต้องมานั่งดมกลิ่นสารเคมีที่ใช้ดับกลิ่น เช่น จากสเปรย์ เป็นต้น
2. กลิ่นสัตว์เลี้ยง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ “กลิ่นสัตว์เลี้ยง” ก็เป็นบ่อเกิดของกลิ่นเหม็นในบ้านได้เช่นกัน เพราะหมาทุกตัวมีกลิ่น และยิ่งมันไปคลุกตัวกับสิ่งสกปรก (ซึ่งหอมสำหรับพวกมัน) แล้วมานั่งนอนบนเฟอร์นิเจอร์ของเรา กลิ่นตัวของมันจะฝังตัวอยู่ในเส้นใยผ้าของเฟอร์นิเจอร์ วิธีดับกลิ่นเหม็นสำหรับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สามารถทำได้ โดยหยดน้ำยาดับกลิ่นที่ทำมาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์บนวัสดุเหล่านี้ เพื่อป้องกันว่าสัตว์เลี้ยงหรือลูกน้อยของคุณจะเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังเมื่อนั่งนอนบนพรมหรือผ้า หรืออีกวิธีหนึ่งที่ Ayasan พบคือ ฉีดน้ำยา Massengill Douche ลงสัตว์เลี้ยงหลังขนของพวกมันถูกเช็ดให้แห้งหลังอาบน้ำแล้ว
3. กลิ่นไม่พึงประสงค์จากห้องน้ำ
คงไม่มีใครบนโลกใบนี้อยากให้กลิ่นเหม็นจากห้องน้ำมาทำลายบรรยากาศในบ้านอันแสนอบอุ่น การกำจัดกลิ่นวิธีง่าย ๆ อันแรกที่ Ayasan คือการติดน้ำหอมดับกลิ่น ซึ่งทุกคนสามารถเลือกซื้อกลิ่นที่แต่ละคนชื่นชอบได้ และมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกด้วยกัน หรือจะทำเองก็ได้ตามขั้นตอนนี้เลย
วิธีการทำขั้นตอนแรกคือ เตรียมน้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง นำวอดก้า 1 ถ้วย เทผสมกัน จากนั้นเหยาะน้ำมันหอมระเหย เช่น ยูคาลิปตัส ส้ม หรือลาเวนเดอร์ แล้วแต่ชอบ คนให้เข้ากัน นำบรรจุลงในขวดที่มีรูระบายกลิ่น หรือจะนำมาฉีดให้ทั่วห้องน้ำก็ได้เท่านี้ก็เรียบร้อย
หากทำด้วยวิธีการนี้ไม่ได้ผล ปัญหาอาจเกิดจากการทำความสะอาดห้องน้ำที่ไม่ดีพอ ก็ต้องล้างทำความสะอาดกันใหม่ โดยเฉพาะส้วม
4. กลิ่นขยะเน่า
อีกหนึ่งที่มาของกลิ่นเหม็นในบ้านคือ “ถังขยะ” แม้ว่าคุณจะนำถุงขยะออกไปทิ้งนอกบ้านเรียบร้อยแล้ว แต่อย่าลืมว่าตัวถังขยะอาจมีเศษขยะแห้งหรือเปียกตกค้างอยู่ ดังนั้น ตัวถังขยะต้องหมั่นนำมาทำความสะอาดด้วย โดยนำน้ำอุ่นผสมกับน้ำส้มสายชู แล้วนำผ้ามาชุบน้ำนี้เช็ดตัวถังขยะให้สะอาด หรือจะใช้วิธีลัดอย่างการหยดน้ำยาดับกลิ่นลงในตัวถังขยะ แล้วทิ้งไว้สัก 2-3 นาที จากนั้นเทน้ำยาดับกลิ่นออกจากถังขยะ ก่อนนำไปเช็ดล้างอีกรอบด้วยน้ำเปล่า เท่านี้ก็ทำให้ถังขยะปราศจากกลิ่นเหม็นแล้ว แต่หากยังมีกลิ่นอยู่อีก! Ayasan ก็ขอแนะนำให้ทุกคนหยดกาแฟลงในถังขยะ เพื่อทิ้งกลิ่นอันหอมรัญจวนของเมล็ดกาแฟกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
5. กลิ่นเหม็นอับจากตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชัก
Ayasan เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้กลิ่นเหม็นอับจากตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชักต่าง ๆ และมันไม่น่าอภิรมย์ชวนดมเอาเสียเลย และมันจะทำให้เสื้อผ้าที่รักมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดไปด้วย วิธีการแก้ปัญหากลิ่นเหม็นอับจากเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าว สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ในบ้านดับกลิ่น โดยนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาขยำ ๆ แล้วพ่นน้ำส้มสายชูลงไป แล้วนำไปยัดไว้ในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้า ทิ้งกระดาษหนังสือพิมพ์นั้นไว้นาน 2-3 วัน เพื่อดูดซับกลิ่นเหม็นทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็ได้ตู้เสื้อผ้าและลิ้นชักที่ไร้กลิ่นแล้ว ส่วนใครอยากเพิ่มความหอมก็สามารถวางแผ่นน้ำหอมไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชักก็ได้ แต่จะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 60 วัน หรือ 90 วัน เพื่อคงความหอมในตู้ไว้
6. กลิ่นเหม็นเหมือนในห้องมีสัตว์ตาย
แน่นอนว่ากลิ่นเหม็นนี้จะเกิดจากอะไรไปไม่ได้ นอกจากมีสัตว์บางชนิด เช่น หนู ตายอยู่ในห้องหรือในซอกหลืบของห้องหรือกำแพง หรือแม้กระทั่งฝ้าเพดานห้อง ซึ่งกลิ่นของสัตว์ที่ตายจะติดอยู่ในห้องของเรานานได้หลายเดือนเลยเชียว วิธีแก้คือ เทน้ำส้มสายชูกลั่นขาวลงในภาชนะพลาสติก แล้วปิดฝาที่เจาะรูไว้ให้แน่น วางภาชนะไว้ที่มุมห้องที่มีกลิ่นเหม็น น้ำส้มสายชูจะดูดซับกลิ่น (โดยห้องของคุณจะมีกลิ่นเหมือนสลัดอยู่ 2-3 วัน แต่ก็คุ้มค่า) และเมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นก็จะค่อย ๆ จางหายไปเอง
6. กลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่าจากอ่างล้างจาน
บ้านไหนที่ชอบทำกับข้าวต้องเคยเจอปัญหากลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่าลอยละล่องมาจากอ่างล้างจาน การทำความสะอาดให้ทิ้งมะนาวที่หั่นเป็นแว่น ใสเกลือสอง 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำแข็งสัก 2-3 ก้อนลงในอ่างล้างจานที่ต้องการทำความสะอาด แล้วทิ้งทั้งสามอย่างนี้ไว้ในอ่างล้างจานจนมันละลายหายไป โดยกลิ่นของมะนาวจะช่วยดับกลิ่น ขณะเดียวกันน้ำแข็งที่ละลายผสมกับเกลือที่โรยลงไปจะช่วยขจัดคราบสกปรกในอ่างล้างจาน เสร็จแล้วทิ้งเปลือกมะนาว แล้วล้างอ่างด้วยน้ำเปล่าก็เป็นอันเรียบร้อย
8. กลิ่นเหม็นเน่าจากเครื่องล้างจาน
ผู้ที่ใช้เครื่องล่างจานก็ไม่รอดพ้นเรื่องกลิ่นเหม็นจากตัวช่วยนี้ เพราะการใช้อ่างล้างจานทำความสะอาดสิ่งสกปรก พวกเศษอาหารที่ติดบนจานจะเข้าไปติดอยู่ที่ตัวกรองของเครื่องล้างจาน เมื่อสะสมเข้ามาก ๆ ก็ทำให้เกิดแบคทีเรีย และเจ้าแบคทีเรียก็จะส่งกลิ่นเหม็น ขั้นตอนแรกของการดับกลิ่นจากเครื่องล้างจานคือ เอาเศษอาหารออกจากด้านล่างของเครื่องล้างจาน ถอดตัวกรองออกมาทำความสะอาดเช่นกัน แล้วตากให้แห้ง ต่อมาเทน้ำส้มสายชูแบบกลั่นผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วยลงในเครื่อง (ไม่ใช่ในที่ใส่ผงซักฟอก แต่ให้ใส่ลงในเครื่องล้างจานโดยตรง) กดปุ่มให้เครื่องใช้น้ำร้อนปั่นทำความสะอาดเครื่องประมาณ 20 นาที จากนั้นกดหยุด ทิ้งให้น้ำส้มสายชูกลั่นกับน้ำเปล่าที่ผสมกันทำหน้าที่สลายสิ่งสกปรกที่ตกค้างในเครื่องจนหมด จึงกดให้เครื่องปั่นน้ำทำความสะอาดจนหมดเวลา หรือครบ 40 นาที ก็บอกลากลิ่นจากเครื่องล้างจานได้แล้ว
9. กลิ่นเหม็นคาวในตู้เย็น
กลิ่นเหม็นคาวในตู้เย็นเกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน วิธีการทำความสะอาดคือ ค่อย ๆ ดึงที่รองของแต่ละชั้นออกมาทำความสะอาดด้วยผ้าที่ชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาแล้วในครั้งแรกที่เช็ด ต่อมาให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดาเช็ดภายในตู้เย็นทั้งหมด และต่อด้วยการเช็ดภายในตู้เย็นด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู และเพื่อให้แน่ใจว่ากลิ่นเหม็นจะไม่กลับมาอีก ก็ใส่กล่องที่บรรจุเบกกิ้งโซดาที่เปิดฝาทิ้งไว้ในตู้เย็น หรือจะวางถ่านไว้ในตู้เย็นเพื่อช่วยดูดกลิ่นก็ได้ หรือจะเพิ่มกลิ่นหอมให้กับตู้เย็นด้วยการนำสำลีชุบสารให้กลิ่นวานิลลาจนชุ่มแล้ววางไว้ในจานเล็ก ๆ ด้านหลังของชั้นวาง เมื่อสำลีในจานแห้งหมดก็นำสำลีก้อนใหม่ที่ชุ่มด้วยกลิ่นวานิลลามาใส่แทน ทำเช่นนี้วนไป เพื่อคงกลิ่นหอมในตู้เย็น
10. กลิ่นเหงื่อจากเสื้อผ้า
ข้อสุดท้ายนี้หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า เสื้อผ้าที่เราสวมใส่กันทุกวันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่นเหม็นในบ้านได้ โดยเฉพาะชุดออกกำลังกาย ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเหงื่อไคลหลังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนักหน่วง สำหรับวิธีดับกลิ่นเหม็นจากเหงื่อควรทำตั้งแต่ขั้นตอนการซักผ้า โดยใส่เบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนชา จากนั้นตามด้วยผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มตามปกติ เมื่อซักเสร็จให้นำเสื้อผ้าออกไปตากแดด หรือถ้าไม่มีแดดในวันฝนตก สามารถตากในที่โล่งที่มีอากาศถ่ายเท เพียงเท่านี้ก็บอกลากลิ่นเหม็นแล้ว
รู้วิธีดับกลิ่นเหม็นในบ้านของ Ayasan ทั้ง 10 ข้อกันแล้ว เมื่อไหร่ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายก็เลือกวิธีดับกลิ่นเหม็นที่ใช่ไปใช้เลย! ส่วนใครที่กังวลว่าจะทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็สามารถเลือกใช้บริการแม่บ้านของ Ayasan โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: 5 เคล็ด (ไม่) ลับดับกลิ่นเหม็นในรถ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: มีกันรึยัง? 6 สุดยอดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร้านอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง: เผย 5 สาเหตุที่ร้านอาหารต้องจ้าง “แม่บ้านมืออาชีพ”
Leave a Reply