5 เคล็ดลับทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ให้สวยเหมือนใหม่!

ถึงฤดูฝนทีไรปัญหาหนึ่งที่หลายบ้านต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ “น้ำท่วม” (หรือบางคนก็นิยมเรียกว่า “น้ำขังรอการระบาย”) ปีนี้ 2564 หลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงในกรุงเทพมหานคร ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน มากบ้างน้อยบ้าง ตามแต่ระดับความสูงของพื้นที่กันไป สำหรับบ้านหลังไหนที่น้ำลดแล้ว คงดีใจได้ไม่นาน เพราะความทุกข์ลำดับต่อมา คือ “การทำความสะอาด”

ทราบแล้วก็อย่าเพิ่งท้อแท้ไปซะก่อนนะทุกคน เพราะ Ayasan Service มี 5 เคล็ดลับทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม แถมทำง่ายมากมาฝากทุกคน รับรองว่าทำตามแล้วบ้านสวยเหมือนใหม่แน่นอน!

1. เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้พร้อม

การเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดต่าง ๆ เช่น แว่นตาช่าง, หน้ากากกรองฝุ่น, ผ้าปิดปากปิดจมูก, ถุงมือยาง, รองเท้าบูท, ไฟฉายและหมวกนิรภัย ยิ่งมีพร้อมครบมือมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเอื้อให้การทำความสะอาดนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว ที่สำคัญป้องกันคุณจากสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดอาการป่วยได้ ถ้าเตรียมอุปกรณ์ครบมือแล้ว ก็แต่งตัวและหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดเหล่านี้ไปทำความสะอาดกันเลย!

2. ตรวจสอบพื้นที่ทั้งในและนอกบ้านก่อนทำความสะอาด

เคล็ดลับการสำรวจรอบบ้านทั้งในและนอกนี้ อาจดูเป็นเคล็ดลับธรรมดา แต่รู้หรือไม่ว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะมีผลต่อความปลอดภัยของคุณขณะทำความสะอาดบ้าน Ayasan Service ขอแนะนำให้คุณสำรวจบ้านของตัวเองโดยแบ่งเป็น 3 ส่วน เพื่อประหยัดเวลาในการสำรวจและเก็บทุกรายละเอียดความสกปรก หรือความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนี้

พื้นที่ด้านนอก ได้แก่ พื้น กำแพง สวน เป็นพื้นที่โดนน้ำและแสงแดดมาก อาจเกิดตะไคร้ได้

พื้นที่ด้านใน ได้แก่ พื้นและผนัง หากน้ำขังก็จะซึมผ่านปูน ผ่านพื้น และสะสมความชื้นอยู่ด้านใน ทำให้เกิดเชื้อราได้ หากทาสีทับไปเลย ไม่ได้สำรวจว่ามีเชื้อราซ่อนอยู่รึเปล่า ก็จะทำให้สีที่ทาร่อนหลุดง่าย

เฟอร์นิเจอร์ ในที่นี้ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะต้องส่งซ่อมหรือซื้อใหม่เท่านั้น สำรวจดูว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนเปียกชื้น หากโดนน้ำจะสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ในอนาคต และอาจสะสมเชื้อราไว้ด้วย

3. แบ่งโซนทำความสะอาด

ให้เริ่มจาก “บนลงล่าง” และ “ในสู่นอก” หากคุณมี “บ้านสองชั้น” ควรทำความสะอาดจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 หากเป็น “บ้านชั้นเดียว” ก็เริ่มทำความสะอาดจากเพดานหรือผนังบ้านก่อน การทำความสะอาดผนังหรือกำแพงบ้าน ทำได้โดยการฉีดน้ำล้าง และใช้น้ำยาทำความสะอาดขัดคราบสกปรกและตะไคร่น้ำออก เพราะหากทำจากนอกมาใน หรือชั้นล่างไปชั้นบน เวลาหอบของที่เสียหายหรือสกปรก ก็จะทำให้พื้นที่ที่เราเดินผ่านสกปรกซ้ำอีก ทุกคนคงไม่อยากทำความสะอาดซ้ำรอบสองหรอกใช่มั้ย?

4. ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์และตัวบ้านตามลำดับ

ก่อนจะเริ่มทำความสะอาดตัวบ้าน ไม่ว่าจะกำแพง พื้น สิ่งที่ควรเริ่มทำความสะอาดลำดับแรกคือ “เฟอร์นิเจอร์” สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

วัสดุจากผ้า: หลังน้ำลดให้รีบนำไปซักและตากแดดให้แห้งสนิท เนื่องจากความชื้นจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียอย่างดี อาจทำให้คุณเป็นโรคผิวหนังและโรคระบบทางเดินหายใจ

วัสดุจากไม้: โดยธรรมชาติของไม้จะดูดซึมและสะสมความชื้น รวมถึงสิ่งสกปรกได้ง่าย ทำให้ยากต่อการทำความสะอาดหลังน้ำท่วม หรือหากดูดซึมน้ำมากเกินไป ก็อาจบวม แตก หรือมีเชื้อราขึ้นได้ หากเสียหายเล็กน้อยยังพอซ่อมแซมได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นให้ตัดสินใจทิ้งอย่างเดียว

เครื่องใช้ไฟฟ้า:  ขึ้นอยู่กับสภาพของชิ้นนั้นว่า พอส่งซ่อมได้ หรือต้องตัดใจทิ้ง

5. ทำความสะอาดให้ถูกจุด จากต้นตอของปัญหา

แน่นอนว่าการทำความสะอาดแบบเพียงผิวเผิน หรือไม่ถูกต้นตอ ทำให้บ้านและเฟอร์นิเจอร์ของเราหลังน้ำท่วม ไม่สะอาดเอี่ยมอ่องเหมือนใหม่ แถมจะพ่วงโรคร้ายให้คุณอีกต่างหาก และต้นตอของบ้านสกปรกหลังน้ำท่วมอย่างแรก คือ 5.1 “ความชื้น” เป็นต้นเหตุหลักของทุกปัญหา พอชื้นปุ๊บ สะสมเชื้อโรคปั๊บ เกิดเป็นเชื้อรา เกิดจุลินทรีย์ เกิดกลิ่นเหม็น มีคราบสกปรกและอีกมากมาย

วิธีกำจัดปัญหานี้อย่างตรงจุด ได้แก่ การเปิดหน้าต่าง เปิดพัดลม เปิดประตู ให้อากาศถ่ายเทพัดพาเอาความชื้นออกไป หากเป็นวันแดดจัดจะดีมาก แต่ห้ามเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะเครื่องปรับอากาศ จะดูดเอาความชื้นและเชื้อโรคไปติดในตัวเครื่อง และต่อไปอากาศจากเครื่องปรับอากาศจะไม่สะอาด ทำให้เกิดโรคและภูมิแพ้ได้

สำหรับใครที่ใจร้อนอยากให้ความชื้นออกไปไว ๆ ก็สามารถใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น เครื่องเป่าลมหอยโข่ง ถ้ามีลมร้อนด้วยจะดีมาก หากใครไม่รีบมาก หรือหลังจากทำความสะอาดบ้านหมดแล้ว ระแวงว่าจะไล่ความชื้นออกไปไม่หมดก็สามารถใช้กากใบชาแห้ง กากกาแฟแห้ง หรือถ่าน ช่วยดูดความชื้นได้

5.2 เชื้อโรคและเชื้อราต่าง ๆ เกิดจากความชื้นและสิ่งสกปรกที่มากับน้ำ ทำให้เกิดการสะสมและรวมตัวกันเป็นเชื้อโรคและเชื้อราต่าง ๆ มีผลร้ายต่อร่างกาย หากสูดดมหรือสัมผัสเป็นเวลานาน ๆ

วิธีกำจัดปัญหานี้อย่างตรงจุด มี 2 วิธี ดังนี้

1) ใช้คลอรีน ผสม 1 ต่อ 500 หรือ 1000 ส่วน เช็ดถู หรือฉีดพ่น
2) ใช้น้ำส้มสายชู เช็ดถู ฉีดพ่น หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราต่าง ๆ หลังจากนั้นประมาณ 10-20 นาที เช็ดถูทำความสะอาดอีกครั้ง ด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

5.3 กลิ่นเหม็น หลังจากกำจัดความชื้น เชื้อโรคและเชื้อราต่าง ๆ ไปแล้ว กลิ่นเหม็นจะเบาบางลง แต่กลิ่นที่ยังสะสมอยู่ในท่อน้ำ หรือพื้นที่อับชื้นยังคงอยู่ เช่น ในห้องน้ำ

วิธีกำจัดปัญหานี้อย่างตรงจุด คือ ควรใช้น้ำหมักชีวภาพ EM แล้วราดลงพื้น หรือฉีดพ่น ช่วยกำจัดกลิ่นได้ แม้ออกฤทธิ์ช้าแต่ได้ผลดี ไม่ควรใช้น้ำยาที่ผสมน้ำหอมราด เพราะจะทำให้กลิ่นเหม็นยังคงอยู่และอาจรุนแรงขึ้นได้ด้วย

5.4 คราบสกปรก เกิดจากน้ำที่ท่วมขังภายในพื้นที่บ้านเป็นระยะเวลานาน

วิธีกำจัดปัญหานี้อย่างตรงจุด คือ สำหรับ “พื้นที่ด้านใน” สามารถกำจัดคราบต่าง ๆ ได้โดยใช้น้ำยาทำความสะอาด แล้วเช็ดถูหรือขัดตามจุดสกปรก หากพื้นที่กว้างสามารถใช้เครื่องขัดช่วยได้ สำหรับ “พื้นที่ด้านนอก” สามารถใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงร่วมกับน้ำยาจะทำความสะอาดได้เร็วขึ้น หรือเครื่องขัดพื้นแบบที่เราเห็นตามห้างก็ได้

ทั้ง 5 เคล็ดลับทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมที่นำมาฝากนี้ จะช่วยให้การทำความสะอาดคราบสกปรกและกลิ่นอับชื้นเป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่วาระแห่งชาติที่ต้องนั่งกลุ้มจนปวดหัวอีกต่อไป แต่หากใครที่ขี้เกียจ หรือกำลังมองหาตัวช่วยทำความสะอาด ก็สามารถเลือกใช้บริการ “แม่บ้าน” ของ Ayasan Service ได้ เพราะมีแบบจ้างรายวันด้วย ที่สำคัญทุกคนสามารถตรวจสอบประวัติและอัตราค่าบริการรายวันของแม่บ้านแต่ละคนได้ทั้งหมดบนหน้าเว็บไซต์นี้ด้วย!

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *