ดูแลผู้สูงอายุในยุคดิจิทัล มีเครื่องมืออะไรสามารถนำมาปรับใช้ได้บ้าง ?

ในโลกยุคดิจิทัลที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นตลอดเวลา พร้อมกันนั้นประชากรของมนุษย์บนโลกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ผู้สูงอายุกำลังมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วโดยมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเป็นตัวขับเคลื่อน ในบทความนี้เราจะมาสำรวจถึงเทคโนโลยีในการดูแลผู้สูงอายุและวิธีการนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงอายุทุกคนในโลกยุคดิจิทัล

โลกที่เปลี่ยนไปสำหรับผู้สูงอายุ

ในยุคดิจิทัลอาจเป็นโลกธรรมดา ๆ สำหรับพวกเรา แต่สำหรับผู้สูงอายุ โลกนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไมว่าจะเรื่องวิถีชีวิต การสื่อสาร สื่อบันเทิง และวิธีการดูแลสุขภาพ ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีออกมาใหม่ทุกปีและพัฒนาศักยภาพขึ้นตลอดเวลา เมื่อผู้สูงอายุต้องเผชิญกับโลกดิจิทัล มันอาจทำให้พวกเขารู้สึกสับสนหรือไม่มั่นใจได้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคุ้นเคย การเรียนรู้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

แต่ก็มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน เช่น ระบบเตือนภัยและการเฝ้าระวังอุบัติเหตุ และแอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถตรวจสุขภาพได้ในบ้าน ทั้งนี้ การสนับสนุนจากครอบครัวไม่ว่าจะเป็นลูก ๆ หลาน ๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญ คอยสอนอย่างใจเย็นและให้กำลังใจเพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้และปรับตัวกับโลกดิจิทัลที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องได้อย่างเหมาะสม

การดูแลผู้สูงอายุในยุคดิจิทัล

ในปัจจุบันเครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีจำนวนมากที่มุ่งเน้นการสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ นวัตกรรมเหล่านี้ใช้พลังของอินเทอร์เน็ต 5G อุปกรณ์เคลื่อนที่ IoT เซนเซอร์ตรวจจับอัจฉริยะ และอื่น ๆ อีกมากมาย

การให้บริการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)

หนึ่งในเทคโนโลยีดิจิทัลมีผลกระทบอย่างชัดเจน คือ การให้บริการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เป็นการให้บริการที่สามารถพบแพทย์ผ่านแพลตฟอร์มการให้บริการช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้โดยไม่ต้องเดินทาง ในปัจจุบันพลังของอินเทอร์เน็ต 5G ที่เร็วแรงช่วยให้หลายคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น คลอบคลุมพื้นที่ในวงกว้างและมีความเสถียรมากขึ้น การให้บริการแพทย์ทางไกลจึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวทำให้เดินทางลำบากหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่มีการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจำกัด

อุปกรณ์สวมใส่และเซนเซอร์อัจฉริยะ

ชื่ออาจฟังดูล้ำสมัยเกินไปที่จะเข้าใจแต่สำหรับอุปกรณ์สวมใส่ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Smart Watch ก็นับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถใช้ดูแลผู้สูงอายุได้ Smart Watch แบรนด์ดัง ๆ อย่าง Apple Watch, Samsung Galaxy Watch, หรือ Garmin ที่เราอาจมองเผิน ๆ ว่าอุปกรณ์เหล่านี้มักใส่เป็นเทรนด์แฟชันหรือสำหรับการออกกำลังกายเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วอุปกรณ์เหล่านี้เหมาะสำหรับใช้ดูแลผู้สูงอายุอย่างยิ่ง เพราะความสามารถในการติดตามและวัดสัญญาณชีพ ระดับกิจกรรม ติดตามระยะเวลาการบริโภคยา และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากในการดูแลผู้สูงอายุ นอกจากนี้อุปกรณ์ดังกล่าวยังสามารถแจ้งเตือนผู้ดูแลในยามเกิดกรณีฉุกเฉิน เช่น เซนเซอร์ตรวจจับจะรายงานแก่ผู้ดูแลเมื่อผู้สูงอายุล้มหรือในกรณีในเกิดความผิดปกติอย่างฉับพลันต่อร่างกายซึ่งจะช่วยให้ผู้ดูแลรับรู้และหาวิธีป้องกันได้ทันท่วงที

แอปพลิเคชั่นสำหรับผู้สูงอายุ

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นแอปสำหรับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม สื่อ โซเชียลมีเดีย แอปใกล้ตัวอย่าง Facebook ก็สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียได้ง่าย เนื่องจากการมีปฏิสัมพันธ์และได้คุยกับผู้คนช่วยให้ผู้สูงอายุห่างไกลจากความเหงาความโดดเดี่ยวซึ่งจะนำหามาสู่ความเครียดและเป็นผลเสียต่อร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ยังช่วยเรื่องการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย เราขอแนะนำแอปที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้สูงอายุดังนี้

Kinya หรือ Mr.Pillster – เตือนเกี่ยวกับกินยา
RDU – มีข้อมูลของยามากกว่า 10,000 รายการ
BP Journal หรือ Blood Pressure Companion – วิเคราะห์ค่าความดันโลหิต
SmartEMS – แอปพลิเคชันฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุ สามารถเรียกรถพยาบาลได้

ที่สำคัญอีกอย่างคือการสอนให้ผู้สูงอายุใช้เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ ด้วยความที่เขาไม่ได้โตมาในยุคที่เทคโนโลยีเบ่งบานเหมือนพวกเรา ฉะนั้นลูก ๆ หลาน ๆ ควรสอนให้เขาใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างใจเย็น ในอนาคตเมื่อเขาเข้าใจการทำงานของเครื่องมือต่าง ๆ แล้ว การดูแลจะง่ายขึ้นนั่นเอง

การเข้ามาของ IoT กับการดูแลผู้สูงอายุ

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งในการดูแลผู้สูงอายุ

IoT หรือ อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง หมายถึงเครือข่ายของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันซึ่งเก็บรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ในบริบทของการดูแลผู้สูงอายุ IoT เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการตรวจสอบสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สูงอายุโดยการให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์แก่ผู้ดูแลและผู้ให้บริการด้านสุขภาพ IoT สามารถเชื่อมรวมกับอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ เซ็นเซอร์อัจฉริยะในบ้าน และอุปกรณ์ตรวจวัดทางการแพทย์ ซึ่งสามารถใช้ในการเกื้อกูลกันและกันในการช่วยดูแลผู้สูงอายุ

ตัวอย่างเช่น นาฬิกา Smart Watch ที่มีเซ็นเซอร์สามารถตรวจสอบสัญญาณชีพอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และระดับกิจกรรม การเชื่อมต่อแบบ IoT ช่วยให้ข้อมูลเหล่านี้สามารถส่งถึงแพลตฟอร์มศูนย์กลางที่มีอัลกอริทึมการเรียนรู้ที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบและตรวจจับความผิดปกติของผู้สูงอายุ ผู้ดูแลสามารถได้รับการแจ้งเตือนในกรณีฉุกเฉินหรือการเปลี่ยนแปลงสถานะของสุขภาพอย่างฉับพลัน ทำให้สามารถหาทางป้องกันได้ทันทีหรือหาแนวทางที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

นอกจากการตรวจสอบสุขภาพ อุปกรณ์อัจฉริยะในบ้านสามารถเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่โดยอิสระ อุปกรณ์เช่นกลอนประตูอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ตรวจจับเคลื่อนไหวที่มีระบบตรวจจับการล้ม สามารถแจ้งเตือนผู้ดูแลหรือบริการฉุกเฉินในกรณีที่ผู้สูงอายุล้มหรือเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุและช่วยให้ผู้ดูแลสามารถหมดกังวลในการคอยเป็นห่วงผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

สรุป

ยุคดิจิทัลทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปทั้งวัยรุ่นหรือวัยชรา แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย มีเครื่องมือเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลเพียงแค่เราต้องสอนให้คุณปู่คุณย่าของพวกเราใช้เป็น เพียงเท่านี้พวกท่านก็จะสามารถอยู่ในโลกยุคดิจิทัลได้แบบหายห่วงแล้วนั่นเอง

แต่! ถ้าหากท่านไม่มีเวลาว่างในการดูแล พวกเรา Ayasan ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแลผู้สูงอายุให้ท่านเอง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ayasan Cares: บริการจัดหาผู้ดูแลผู้สูงอายุ ส่งตรงถึงบ้าน | การันตีด้วยผู้ดูแลมืออาชีพ | บริการดูแลรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน (ayasan-service.com)