ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบของคนเมือง เราต่างมีภารกิจและความรับผิดชอบที่ต้องรับมือมากมาย บางครั้งการทำความสะอาดบ้านอาจถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับความใส่ใจเท่าที่ควร แน่นอนว่าการรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพและบรรยากาศในการอยู่อาศัย หากปล่อยให้สิ่งสกปรกสะสมจนเกินไป ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในครอบครัว วันนี้เราจะมาสำรวจกัน 10 จุดในบ้านที่มักถูกละเลยในการทำความสะอาด พร้อมวิธีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
1. ช่องระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ
หนึ่งในจุดที่มักถูกมองข้ามบ่อยครั้งคือช่องระบายอากาศและเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากตั้งอยู่สูงและอาจเข้าถึงได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วบริเวณเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมฝุ่นผงและเชื้อโรคอย่างมหาศาล โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศซึ่งหมุนเวียนอากาศเย็นไปทั่วบ้าน หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง อาจส่งผลให้คุณภาพอากาศในบ้านแย่ลง นอกจากนี้ฝุ่นผงยังอาจอุดตันระบบระบายอากาศ ทำให้เครื่องทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น
วิธีทำความสะอาด: ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อนเช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องและช่องระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอ สำหรับเครื่องปรับอากาศ ควรเปิดตู้และทำความสะอาดแผ่นกรองและพัดลมทุก ๆ 3 เดือน รวมถึงการเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่กำหนด
2. ม่านและพรม
ม่านและพรมเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากต่อการทำความสะอาด ทำให้มักถูกละเลยบ่อย ๆ ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งคู่เป็นแหล่งสะสมฝุ่น ไรฝุ่น และเชื้อโรคอย่างมหาศาล หากปล่อยไว้นานจนเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทางเดินหายใจ รวมถึงแพ้และกำเริบของโรคภูมิแพ้ได้
วิธีทำความสะอาด: ใช้ที่ดูดฝุ่นขนาดเล็กหรือแปรงกวาดฝุ่นเช็ดทำความสะอาดพรมและม่านประจำสัปดาห์ นอกจากนี้ ควรนำพรมและม่านไปซักล้างด้วยน้ำยาซักผ้าที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคบ้างเป็นครั้งคราว หรือหมุนเวียนนำไปรับบริการซักรีดจากร้านซักรีดเป็นประจำ สำหรับพรมเสี่ยง การดูดฝุ่นอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องนำไปรับบริการซักพรมโดยผู้เชี่ยวชาญทุก ๆ 6 เดือน
3. ภายในตู้และลิ้นชัก
ช่องว่างและพื้นที่แคบ ๆ อย่างภายในตู้และลิ้นชักเป็นอีกหนึ่งจุดที่มักจะถูกมองข้าม การเปิดเช็กทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดกลิ่นอับและเชื้อราได้
วิธีทำความสะอาด: นำสิ่งของออกจากตู้และลิ้นชักให้หมด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อนเช็ดทำความสะอาดด้านในอย่างทั่วถึง ระวังอย่าให้น้ำยาหกลงบนสิ่งของภายใน หลังจากนั้นเช็ดให้แห้งสนิท ก่อนจะวางสิ่งของกลับเข้าไปใหม่ ไม่ควรปล่อยให้เศษอาหารหรือของเหลวตกค้างอยู่ภายใน เพราะจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อราและแบคทีเรีย ทำความสะอาดอย่างน้อยทุกไตรมาส
4. ด้านหลังและข้างตู้เย็น
ด้านหลังและด้านข้างตู้เย็นเป็นพื้นที่แคบ ๆ ที่เราอาจมองข้ามไปโดยง่าย แต่แท้จริงแล้วเป็นแหล่งสะสมฝุ่นผงและสิ่งสกปรกได้เช่นกัน หากบริเวณเหล่านี้สกปรกจะทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้น อาจส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและเกิดการชำรุดเสียหายได้ง่ายขึ้น
วิธีทำความสะอาด: ดึงตู้เย็นออกมาจากตำแหน่งติดผนัง แล้วใช้ไม้กวาดขนาดเล็กหรือที่ดูดฝุ่นแบบมือถือกวาดเศษผงและสิ่งสกปรกบริเวณด้านหลังและด้านข้าง หลังจากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดให้สะอาดอีกครั้ง ก่อนดันตู้เย็นกลับเข้าที่เดิม อย่าลืมทำความสะอาดบริเวณที่ตู้เย็นวางอยู่ด้วย ควรทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง
5. บริเวณรอบและใต้เตียง
เตียงนอนถือเป็นพื้นที่สำคัญที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ของวัน แต่บริเวณรอบ ๆ และใต้เตียงกลับเป็นจุดที่มักถูกมองข้ามบ่อยครั้ง ทำให้สะสมเศษผม ฝุ่นผง รวมถึงเศษอาหารและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย นอกจากก่อให้เกิดกลิ่นอับแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงและสัตว์รบกวนต่าง ๆ อีกด้วย
วิธีทำความสะอาด: ใช้ไม้กวาดและที่ดูดฝุ่นกวาดและดูดสิ่งสกปรกบริเวณรอบและใต้เตียงให้ทั่วถึงสัปดาห์ละครั้ง เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและซักทุกสัปดาห์เพื่อคงความสะอาด นอกจากนี้ อย่าวางสิ่งของกองรกรุงรังภายใต้เตียง เพราะจะสร้างแหล่งสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรกเพิ่มขึ้น
6. พื้นห้องนอนและบันได
มักมีคนส่วนมากที่ละเลยการทำความสะอาดพื้นห้องนอนและบันได โดยเฉพาะอย่างยิ่งบันไดซึ่งต้องใช้แรงงานค่อนข้างมากในการกวาดและถูพื้น แต่ความจริงแล้ว พื้นเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมฝุ่นผงและเศษสิ่งสกปรกมากที่สุดจุดหนึ่งในบ้าน การมองข้ามย่อมส่งผลต่อคุณภาพอากาศและความสะอาดโดยรวมภายในบ้าน
วิธีทำความสะอาด: จัดสรรเวลาในการกวาดและถูพื้นห้องนอนและบันไดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ใช้ไม้กวาดและน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคที่เหมาะสม สำหรับบันไดไม้หรือบันไดที่เป็นวัสดุกระเบื้องหรือหิน อาจจำเป็นต้องใช้แปรงขนแข็งในการขัดถูเพื่อขจัดคราบสกปรก สำหรับพื้นพรม ควรดูดฝุ่นบ่อย ๆ และนำไปซักล้างเป็นครั้งคราว
7. ผนังและวอลเปเปอร์
แม้ผนังจะอยู่สูงและไม่มีนิสัยสกปรกมากนัก แต่ก็ถือเป็นอีกสัดส่วนที่มักจะถูกละเลยในบ้านเช่นกัน บนผนังและวอลเปเปอร์สามารถสะสมคราบฝุ่นผง เขม่า และไขมันได้ สร้างความรำคาญใจและทำลายบรรยากาศภายในบ้าน
วิธีทำความสะอาด: ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดตามแนวนอนบนผนังและวอลเปเปอร์ หากพบคราบสกปรกเข้มข้น อาจต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดผสมกับน้ำอุ่นเพื่อให้สามารถขจัดคราบได้ง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงการถูแรงเกินไป เพราะอาจทำให้วอลเปเปอร์หลุดร่อนได้ สำหรับมุมหรือซอกผนัง ให้ใช้แปรงขนนุ่มช่วยในการขัดถู จัดสรรทำความสะอาดผนังและวอลเปเปอร์อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง
8. ผ้าม่านห้องน้ำ
หลายคนมองข้ามการทำความสะอาดผ้าม่านห้องน้ำเสียเป็นประจำ ทำให้เกิดการสะสมของคราบน้ำและสารเคมีจากการอาบน้ำ รวมถึงเชื้อราและแบคทีเรีย ส่งผลให้ห้องน้ำมีกลิ่นอับและขาดสุขอนามัย
วิธีทำความสะอาด: นำผ้าม่านลงจากราวแขวนมาซักด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาซักผ้าทุก 2 สัปดาห์ หรือนำไปรีดด้วยไอน้ำเพื่อกำจัดเชื้อโรค หากม่านเริ่มมีกลิ่นอับหรือเห็นรอยคราบเขม่า ให้แช่ด้วยน้ำผสมน้ำยาฟอกขาวอ่อน ๆ ก่อนซัก เพื่อขจัดคราบสกปรกและฆ่าเชื้อโรคตกค้าง หมั่นตรวจสอบและเปลี่ยนม่านใหม่หากเริ่มมีสภาพเก่าผุพังหรือฉีกขาด
9. พื้นใต้โซฟาและเก้าอี้
พื้นที่ใต้เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ อย่างโซฟาและเก้าอี้ ถือเป็นหนึ่งในจุดอับแสงที่มักถูกละเลยในการทำความสะอาด แต่แท้จริงแล้วเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เศษอาหาร ขนสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงวัสดุชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่าง ๆ ที่ตกหล่นไปโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม หากปล่อยปะละเลยจะก่อให้เกิดกลิ่นอับและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงรบกวน
วิธีทำความสะอาด: ใช้ที่ดูดฝุ่นแบบมือถือหรือแปรงกวาดขนาดเล็กดูดหรือกวาดเศษผงและวัสดุต่าง ๆ ออกจากบริเวณพื้นใต้โซฟาและเก้าอี้ทุกสัปดาห์ สำหรับโซฟาหนังหรือผ้าควรนำมาซักและทำความสะอาดท็อปโซฟาทุก ๆ เดือนด้วย นอกจากนี้ ก่อนจัดโซฟาหรือเก้าอี้ตั้งแต่แรก ให้วางแผ่นรองไว้ด้านล่างเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกหล่นลงพื้น จะช่วยให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความสะอาด
10. พื้นผิวห้องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้า
ห้องครัวนับเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการสะสมคราบสกปรก ไขมัน และจุลินทรีย์มากที่สุด จึงจำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จุดที่มักถูกมองข้ามก็คือพื้นผิวของตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เตาอบ เตาแก๊ส และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในห้องครัว แม้จะทำความสะอาดเคาน์เตอร์และพื้นบ่อยแค่ไหน แต่หากเครื่องใช้เหล่านี้สกปรก ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค
วิธีทำความสะอาด: ใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าแบคทีเรียชนิดเฉพาะสำหรับห้องครัว เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวของอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นอย่างสม่ำเสมอ ห้ามปล่อยให้คราบสกปรกตกค้างจนแข็งตัว จะยิ่งทำให้ยากต่อการขจัดออก สำหรับเตาอบ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างเตาอบเป็นประจำ หมั่นล้างช่องใส่ถาดของเตาและตู้เย็น ป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมของคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นอับชื้น
สรุป
ด้วยการดูแลรักษาความสะอาดอย่างทั่วถึงและจริงจังในทุกซอกมุมของบ้าน จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอรและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว อย่าลืมว่าการทำความสะอาดอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ คือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะนำพาไปสู่ชีวิตที่มีคุณภาพและผ่อนคลายยิ่งขึ้น
หากท่านไม่อยากมานั่งจำว่าต้องทำความสะอาดส่วนไหนบ้าง พวกเรา Ayasan Service ยินดีให้บริการแม่บ้านมืออาชีพ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Ayasan | บริการจัดหาแม่บ้าน บริการทำความสะอาด พี่เลี้ยงเด็ก ดูแลผู้สูงวัย กรุงเทพฯ (ayasan-service.com)
Leave a Reply