ความสะอาดแบบ Green Cleaning ฉบับใคร ๆ ก็ทำได้

เป็นที่รู้กันว่าปัจจุบันโลกของเราได้รับผลกระทบจากความเสียหายของสิ่งแวดล้อมมากมายขนาดไหน เรามนุษย์ด้วยกันเองพลอยจะได้รับผลกระทบจากความเสียหายนั้นไปด้วย หลายบริษัทเริ่มต้นทำ Green Business ไม่ว่าจะทำไปเพื่อผลประโยชน์หรือตระหนักถึงปัญหาจริง ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมกำลังคืบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ดังนั้นปุถุชนคนธรรมดาอย่างพวกเราจะสามารถเริ่มต้นทำอะไรได้บ้าง วันนี้เราจึงนำเสนอการทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง Green Cleaning เป็นสิ่งเล็ก ๆ ง่าย ๆ และไม่ยากเลยที่คนธรรมดาอย่างพวกเราจะเริ่มหันมาเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและยังได้ความสะอาดกลับมาอีกด้วย

Green Cleaning คืออะไร ?

Green Cleaning คือการทำความสะอาดโดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรต่อธรรมชาติเป็นหลัก นอกจากนี้ตัวผลิตภัณฑ์ยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์เมื่อถูกสัมผัสหรือสูดดมกลิ่นเข้าไป อีกทั้งยังส่งเสริมให้ตัวบรรจุภัณฑ์สามารถใช้ซ้ำหรือนำไปรีไซเคิลได้ซึ่งจะช่วยลดขยะบรรจุภันฑ์ในอนาคตในมากอีกด้วย

ทำไมถึงควรหันมาใช้ Green Cleaning

1. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไม่ว่าจะน้ำยาขัดพื้นซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เมื่อสูดดมเข้าไป ยิ่งกว่านั้นยังเป็นนับว่าเป็นมลพิษต่อธรรมชาติด้วย ในขวดบรรจุภัณฑ์จึงต้องมีคำเตือนว่าห้ามนำขวดไปทิ้งตามแม่น้ำสาธารณะเนื่องจากจะส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในพื้นที่บริเวณนั้น

ในทางกลับกันหากเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่นับได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สีเขียวที่มีส่วนประกอบส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ สามารถย่อยสลายได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างเรา ๆ เมื่อต้องใช้งานด้วย

2. เพื่อสุขภาพ

แน่นอนว่าพวกเราคงไม่อยากแตะต้องสารเคมีถ้าเป็นไปได้ ผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่มีสารเคมีจะมีส่วนประกอบอย่างสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile organic compounds) สารเหล่านี้สามารถที่จะระเหยเป็นไอและเข้าไปปนเปื้อนเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับคนเราก็สามารถรับมลพิษเหล่านี้ได้ทั้งทางการสูดผ่านทางเดินหายใจหรือการถูกสัมผัส ยิ่งในบ้านที่มีทั้งผู้สูงอายุหรือเด็กทารก การต้องเสี่ยงกับสารเคมีเหล่านี้ย่อมไม่คุ้มอย่างแน่นอนในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์สีเขียวเสนอแนวทางการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบางทีก็เป็นอุปกรณ์รอบตัวซึ่งไม่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ มั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าปลอดภัยได้หายห่วง

3. ประหยัดเงิน

เนื่องจากแนวทาง Green Cleaning เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลยอาจถูกมองว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีราคาแพง แต่จริง ๆ แล้วไม่เลย เราอาจไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยซ้ำ เนื่องจากเราสามารถใช้อุปกรณ์ในครัวที่ทุกบ้านมักจะต้องมีมาใช้ในการทำความสะอาดได้อยู่แล้ว แนวทางดังกล่าวนอกจากจะทำให้เราไม่ต้องซื้อสินค้าทำความสะอาดซึ่งประหยัดเงินเพิ่มขึ้น ยังเป็นการลดขยะอีกด้วย

มาเริ่มกันเลย!

มาดูกันว่าเราสามารถหยิบใช้สิ่งของอะไรใกล้ตัวมาเป็นแนวทางสำหรับ Green Cleaning ได้บ้าง แล้วคุณจะรู้ว่าแนวทางนี้ง่ายกว่าที่คิด

มะนาว

พืชเครื่องปรุงสามัญที่ทุกบ้านต้องมีและหาซื้อได้ง่าย มะนาวสามารถใช้ในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค รวมถึงกำจัดกลิ่นได้อีกด้วย เราสามารถใช้น้ำมะนาวในการกำจัดคราบมันต่าง ๆ ตามพื้นที่ในห้องครัว เครื่องใช้ในครัวเรือน ท่อน้ำทิ้ง รวมถึงคราบตามห้องน้ำ เรียกว่าทุกพื้นที่ทีมีคราบสามารถใช้มะนาวกำจัดได้หมด ในส่วนพื้นที่ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็สามารถใช้มะนาวในการกำจัดกลิ่นนั้นได้ การใช้งานก็ง่ายดายเพียงแค่บีบน้ำมะนาวตามพื้นที่ที่สกปรกและใช้น้ำเช็ดคราบนั้นออก เรียกได้ว่าเป็นไอเทมที่อเนกประสงค์และหาใช้ได้ง่ายมาก

เบคกิ้งโซดา (Baking Soda)

เเบคกิ้งโซดามีฤทธิ์เป็นด่างสามารถนำมาใช้ทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้ รวมถึงยังสามารถใช้ในการกำจัดกลิ่นได้ดีอีกด้วย วิธีก็ง่าย ๆ เพียงแค่ผสมกับน้ำเปล่า ใช้ผ้าชุบ นำไปเช็ดตามคราบต่าง ๆ นอกจากคราบก็ยังดับกลิ่นได้ดีอีกด้วย ไม่เพียงแค่ทำความสะอาดในครัว ไม่ว่าจะของใช้ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องซักผ้าก็ยังสามารถใช้เบคกิ้งโซดาได้

น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูสามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรก รวมถึงคราบฝั่งแน่นที่เอาออกยาก เรียกได้ว่าถ้าเรื่องคราบต้องน้ำส้มสายชู วิธีการก็ไม่ยาก เพียงแค่ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าปริมาณเท่า ๆ กันหรือหากมีสูตรปริมาตรที่สะดวกก็สามารถใช้ตามนั้นได้เลย ใช้ผ้าชุบแล้วขัดคราบบริเวณที่ต้องการ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำหรืออีกวิธีที่สะดวกคือผสมใส่ฟ็อกกี้แล้วนำไปฉีดตามคราบที่ต้องการ วิธีนี้จะเพิ่มความสะดวกมากขึ้น

น้ำมันหอมระเหย (Essential Oils)

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชื่อกับน้ำมันหอมระเหย หรือดูจากชื่อแล้วเกิดความสงสัยว่าสามารถนำมาทำความสะอาดได้อย่างไร กล่าวอย่างสั้น ๆ น้ำมันหอมระเหยคือการสะกัดน้ำมันจากพืช ดังนั้นการันตีความปลอดภัยได้เลย

น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติทางธรรมชาติในการทำความสะอาด มีจุดเด่นที่มาพร้อมกับกลิ่นที่หอมสดชื่น โดยส่วนผสมน้ำมันหอมระเหยที่สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้ เช่น เลมอน ลาเวนเดอร์ ทีทรีออยล์ (Tea tree oil) วิธีใช้ก็ง่ายเช่นเคย เพียงหยดน้ำมันหอมระเหยลงบทผ้าที่เปียกบิดหมาด ๆ นำผ้าดังกล่าวเช็ดคราบที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหองครัว ห้องน้ำ ห้องนอน นอกจากนี้ยังสามารถนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์สีเขียวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มหอมในการทำความสะอาดได้อีกด้วย

อย่างที่เราบอกว่า Green Cleaning ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย เพียงแค่หยิบของใกล้ตัวมาใช้ ผสมนิดผสมหน่อยก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้แล้ว

เห็นแบบนี้แล้วเริ่มอยากทำความสะอาดกันหรือยัง แต่หากท่านไม่มีเวลาว่างทำงานที่บ้าน หรืออ่านแล้วเริ่มอยากทำความสะอาดสำนักงานขึ้นมา Ayasan Service พร้อมให้บริการแม่บ้านทำความสะอาด! สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ Ayasan | บริการจัดหาแม่บ้าน บริการทำความสะอาด พี่เลี้ยงเด็ก ดูแลผู้สูงวัย กรุงเทพฯ